เจาะจิตฆาตกร เล่ม 1 : ตอน ผ่าปมวิปริต

 

20751389_10211994680535926_141611321_n.jpg

เจาะจิตฆาตกรนี้ เป็นเรื่องที่สองของทางฝั่งจีนที่เราได้อ่านค่ะ
เหตุผลที่เลือกมาอ่าน เพราะเค้าโปรยหัวไว้ว่ามันเหมือนกับ Criminal Minds ค่ะ 
ถ้าจะให้พูดถึงจุดที่แตกต่างจาก Criminal Mindsจากที่เราได้อ่านมา เราคิดว่า
Criminal Minds จะออกแนวซีรี่ส์ที่เหมือนแสดงให้เห็นแนวทางของการทำงานมากกว่า
ส่วน เจาะจิตฆาตกรจะมีส่วนผสมของการโพรไฟล์ลิ่งกับความดราม่าของตัวละครเอกเข้าไว้ด้วยกัน
แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันจริงๆแล้วการดำเนินเรื่องมันก็ไม่เหมือนกันนี่เนอะ
ในคำโปรยหนังสือจะมีการเปรียบเทียบถึงเชอร์ล้อคโฮล์มไว้ด้วย 
หลายๆคนอาจจะทราบมาบ้างนะคะว่าเชอร์ล้อคเป็นยอดนักสืบ
ที่สามารถนำอนุมานศาสตร์ มาใช้กับการสืบคดีเข้าด้วยกัน
(ถ้าอิงจากBBC บางทีก็ใช้กวนประสาทชาวบ้าน55) มาคิดๆดูแล้ว
โพรไฟล์ลิ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลยเนอะ

โอเคมาว่ากันที่เจาะจิตฆาตกรกันต่อค่ะ 

รายละเอียดการดำเนินเรื่องจะเน้นไปที่ ฟังมู่ ตัวเอกซึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาโทค่ะ
ซึ่งฟังมู่เองมีอดีตบางอย่างที่จะมาเป็นปมในการดำเนินเรื่องด้วยค่ะ ตรงนี้ไม่สปอยล์นะ
ฟังมู่เป็นตัวละครที่ไม่ได้เก่งเว่อร์ค่ะ แต่นับเป็นอัจฉริยะในด้านอาชญาวิทยาคนนึงเลย
มีบางมุมที่ถึงกับต้องพูดออกมาเลยว่าฟังมู่เอ๊ยยย
เป็นตัวละครที่ต้องเอาใจช่วย
และให้กำลังใจค่ะ (เวลาที่น้องเจอศพบางทีก็หนีไปอ้วกค่ะ55)

ซึ่งด้วยข้อนี้เราอ่านแล้วก็ทำให้อินไปได้ไม่ยากเลย ในด้านของที่มาที่ไป
และคนร้าย(ลาสบอส)
อันนี้สำหรับเราเดาได้ไม่ยากนะคะ
แล้วก็เป็นทริคที่ค่อนข้างเดาได้หมดอะ 
แต่ก็ไม่ได้ทำให้หมดสนุกแต่อย่างใดนะคะ

ส่วนที่จะบอกว่าเป็นจุดโดดเด่นมากๆของนวนิยายฆาตกรรมทางฝั่งจีนนี่เรายกให้
ความแหวะของวิธีการเลยค่ะ บอกเลยว่าอ่านฆาตกรรมวิปริตมาก็เยอะแต่ฝั่งจีน
นี่เราบอกเลยว่าโดดเด่นที่สุด 555 คือในบางอารมณ์มันน่าขนลุกมากและ
ในพาร์ทของการบรรยายไม่ได้เน้นรายละเอียดความแหวะมาก
แต่กลับทำให้เรารู้สึกว่ามันน่ากลัวมากได้เลย

อีกหนึ่งเรื่องที่เราและเพื่อนคนนึงได้คุยกันก็คือ ถ้าในเรื่อง
ผู้เคราะห์ร้ายเป็นผู้หญิง มักจะจบลงด้วยการถูกข่มขืนค่ะ

….ทำไมเนี่ย
ส่วนประกอบที่สำคัญที่น่าจะเป็นจุดเด่นของ เจาะจิตฆาตกรก็คือข้อมูลทางด้าน
อาชญวิทยาค่ะ มีทั้งเคสที่ผ่านมาและทฤษฎีทางด้านจิตวิทยาเข้ามาค่อนข้างดีเลย
ทราบมาว่าผู้เขียนจบปริญญาเอกด้านจิตวิทยาอาชญากรรมค่ะ ข้อมูลไม่ไก่กาแน่นอน
คือหลังจากที่อ่านจบแล้วเราสามารถไปค้นข้อมูลต่อไปได้อีกเยอะเลยค่ะ 
หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินบททดสอบแนวโน้มความน่าจะเป็นฆาตกรของFBI
แล้วใช่ไหมคะ(หรืออาจจะผ่านตากันมาบ้าง) ข้อที่คนนำมาโพสต่อๆกันที่ว่า 

” มีสองสาวชาวจีนพี่น้อง จัดพิธีศพของพ่อแม่อย่างอลังการสมฐานะที่บ้านร่ำรวย
ในพีธีศพนั้นมีแขกเหรื่อมากันอย่างล้นหลาม ซึ่งพี่สาวคนโต ได้เจอกับชายหนุ่มที่
หล่อเหลามากในพิธีศพของพ่อแม่เธอ หญิงสาวตกหลุมรักชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น
ในทันที  และเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น คนเป็นพี่สาวก็ทำการฆาตกรรมน้องสาวตน
อย่างโหดร้าย คำถามคือ ทำไมเธอจึงทำเช่นนั้น? ” 
เฉลยไว้ท้ายบล๊อกนะคะ

ข้อนั้นล่ะค่ะ ในเจาะจิตฆาตกรคนอ่านจะได้ข้ออื่นๆด้วย แต่ไม่ได้มีรายละเอียด
อธิบายไว้มากนะคะในส่วนของแบบทดสอบนี้
สุดท้ายนี้ ไปเอาใจช่วยฟังมู่และ
ทำแบบทดสอบไปด้วยกันค่ะ
สรุปสั้นๆเลยสำหรับเล่มนี้เราแนะเลย อ่านง่ายและสนุกค่ะ

ตอนี้เรากำลังตามไปที่เล่ม2 แล้วค่ะ อ้อ เห็นว่ามีทำเป็นซีรี่ส์แล้วนะคะ
แต่เราหาซับไม่เจอเลยใครเจอรบกวนบอกบุญด้วยนะคะ

สำหรับคำเฉลยนะคะ

 

 

 

 

 

เพราะเธอต้องการจัดพิธีศพอีกครั้งเพื่อที่จะได้พบผู้ชายที่ตนหลงรัก
เหมือนที่เธอพบเขาในงานศพของพ่อแม่เช่นกัน

ได้คำตอบแบบไหนกันคะ?

 

 

 

 

ハゴロモ ( ปีกนางฟ้า)

มาพบกับคุณบานาน่าาาา ต่อจากนี้ไปจะขอเรียกคุณกล้วย
(นี่ควานหาซื้อมือสองมา โชคดีที่หลุดจอง)

อธิบายนิดนึงว่า ปีกนางฟ้านี่เป็นหนังสือที่ออกมานานมากแล้วเหมือนกันนะ
แล้วเหมือนว่ามีการรีดีไซน์ปกไปแล้วด้วย
สำหรับใครที่เคยอ่านคุณกล้วยมาซักพักก็จะสังเกตได้ว่า ตัวละครในหนังสือ
ของคุณกล้วยนั้น มักจะเป็นตัวละครที่ผ่านความเจ็บปวดจากการสูญเสียสิ่งใดสิ่งหนึ่งมา
แล้วก็มักจะพบกับคนที่ผ่าประสบการณ์แบบนั้นมาพบกัน แล้วก็ประคับประคองกันไปเยียวยากันไป
ซึ่งในปีกนางฟ้านี่ก็เหมือนกัน ตัวละครในรอบนี้
สูญเสียวันเวลา และความรักไปค่ะ ทั้งสองอย่างนี้คุณกล้วยเปรียบเทียบกับธรรมชาติ
ได้ลึกซึ้งมากเลย ถ้าใครขี้โควทหน่อยเล่มนี้ตัดออกมาได้หลายประโยคเลยนะ 55

เคยมีคนบอกเราว่าหนังสือหรือหนังบางเรื่อง เราต้องมีประสบการณ์ร่วมหรือ
ช่วงประสบการณ์ร่วมในอายุที่ไม่เด็กซะทีเดียวอ่านแล้วจะเข้าใจ
การบรรยายความเจ็บปวดค่อนข้างเยอะอยู่(ทั้งเรื่องเลยเหอะ) คิดเล่นๆว่า
ถ้าตัวเราที่เด็กกว่านี้อ่านแล้วอาจจะรู้สึกรำคาญเหมือนกันนะ
คงจะอารมณ์ว่าจะอะไรนักหนา แต่พอมาอ่านในตอนวัยนี้ก็รู้สึกว่าบางอย่าง
มันก็ไม่สามารถเรียกกลับคืนมาและบางอย่างก็ช่วยไม่ได้ที่ต้องจากไปจริงๆ
เจ็บแท้….

แต่ก็นั่นแหละสไตล์คุณกล้วย อ่านจบแล้วก็ทำให้ยิ้มออกมาได้นะ
ไม่ได้เศร้าจมปลักอะไรขนาดนั้น ถ้าใครที่กำลังคิดว่าจะจัดการกับ
ความสูญเสียตรงหน้ายังไงดีเราแนะนำให้อ่านดู
แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่านี่ไม่ใช่หนังสือฮาวทูจัดการกับความเศร้าด้วยตัวเองแต่อย่างใด
(เข้าใจตรงกันเนอะ)อยากแนะนำให้ลองอ่านกันดูก็น่าจะได้อะไรมั่งแหละ

ในขณะที่เวลาพาสิ่งที่เรารักไปและนำความเจ็บปวดมาให้
แต่ในท้ายที่สุดมันก็จะผ่านไป มันก็เท่านี้เอง

Sputnik Sweetheart

รักเร้นในโลกคู่ขนาน หรือ Sputnik Sweetheart เป็นเรื่องไซส์กลาง
ไม่เล็กไม่ใหญ่มากจากคุณมุราคามิ ไปๆมาๆก็กลายเป็นว่า
เราชอบเรื่องนี้เป็นลำดับต้นๆของมุราคามิเลย
โดยคำโปรยปก เขียนไว้ว่างี้
ทำไมคนเราถึงได้เหงาขนาดนี้ คำอธิบายแท้จริงซ่อนอยู่ที่ไหน
คนบนโลกนับล้านคน ทุกผู้ทุกคนโหยหาใครสักคน
ที่จะมาปลอบประโลมใจให้คลายเหงา
แต่ก็กระถดตัวหนี ปลีกตัวไปอยู่เดียวดายทำไม
เป็นไปได้หรือไม่ว่า โลกถูกส่งให้มาลอยดวงกลางอวกาศเวิ้งว้าง
เพียงเพื่อให้เป็นที่พำนักของคนเหงา

อะไรมันจะเหงาขนาดนี้ …แต่เอาเข้าจริงๆนะ มันก็ไม่ได้โศกสลดขนาดนั้นนะ
มันอาจจะใช่ ที่เค้าโปรยมาว่างั้น

(ในส่วนนี้ก็อาจจะอยู่ที่ภูมิต้านทานของแต่ละคน)
พออ่านไปอ่านมา เอ นี่มันอารมณ์แบบ เพื่อนสนิท
เวอร์ชั่นมุราคามิเลยอะ ใช่นี่มันเพื่อนสนิทชัดๆ 55
อารมณ์แอบรักนี่ ไม่ค่อยเจอในเรื่องอื่นๆของมุราคามินะ (หรือมี)

การเปรียบเทียบตัวตน ของตัวเอกในเรื่อง(และแทนผู้อ่าน )
กับสปุตนิกดาวเทียมดวงแรงของโลกนั้น
ไม่ได้เปรียบเปรยกับความเว้งว้างว่างเปล่าเพียงอย่างเดียวนะ
เราว่า มันคือธีมของเรื่องที่เฮียบอกนั่นแหละ โลกคู่ขนาน…

ข้อความต่อไปนี้อาจจะสปอยล์เนื้อเรื่อง ประมาณ 40%
เราชอบความเป็นนิยายที่เกือบจะวิทยาศาสตร์ของเฮียมาก
ไม่ต้องมีอุปกรณ์ ไมต้องใช้เทคโนโลยี แต่ก็เนียนๆโยงไปกับความคิดเรื่องโลกคู่ขนานได้
(วิธีการดูเมาๆดี เราชอบมาก 55) อ่านไปอ่านมาก็ชักจะเมาๆไปเหมือนกันนะ

สรุปแล้วว่า ตกลง
โลกที่เราอยู่ ร่างกายเรา ที่ยังมีเลือดเนื้ออยู่นี่มันครบดีอยู่รึเปล่า
ไม่ได้ถูกแบ่ง ถูกกระชากไปในอีกโลกนึงหรอกนะ
สุดท้ายแล้ว ก็ตัวเราเองนี่แหละ ถึงจะเหงา ถึงจะหายไปครึ่งคนยังไง
เราก็ยังต้องหอบหิ้วตัวเองกันต่อไป จนกว่าจะถึงซักวันนึง
ที่มันจะถูกแทนที่ด้วยอีกครึ่งนึงของคน ที่ก็หายไปเหมือนกัน
…..หรือจะไม่เหลืออะไรเลย?

ねないこだれだ

18698205_10211301527367530_43934360167575337_n

 

ยืนอ่านฟรีมา 555 คือเลวมาก ขอโทษค่ะ ช่วงนี้ซื้อหนังสือจนไม่มีเงินใดๆแล้ว
เราเคยเห็นผีนี่จากแฟนอาร์ตมา พอเห็นปกก็เลยหยิบมาอ่านดู พบว่าเป็นผีที่ยูนีคมาก 55
เนื้อเรื่องคือ กลางคืนแล้ว นาฬิกาตีดังแก๊งๆ นกฮูกก็ยังไม่นอน มีเด็กคนไหนยังไม่นอนนะ
แล้วผีก็จะมาพาตัวไป พาไปในโลกของผี

…..แม่งคัลท์ว่ะ น่ากลัวเว้ยยยยย 555
คือตอนจบอีผีพาบินอะ แล้วไปเลย คือแบบ แล้วยังไงอีเด็กได้กลับมาป่ะ
หรืออะไรยังไง ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย อะไรวะจบแล้วเหรอ ลูกเค้ามีพ่อมีแม่นะเฮ๊ย

ที่พีคคือ
เพื่อนเราบอกว่า มุราคามิก็โตมากับหนังสือแบบนี้ไง 55555

A Dog’s Purpose (2017) หมา เป้าหมาย และเด็กชายของผม

17098145_10210539119187802_561863691169564867_n
เรื่องนี้เราอ่านก่อนไปดูหนัง
บอกก่อนว่านี่เขียนในมุมของคนที่เคยเลี้ยงหมาแล้วรักหมามากๆ
(เฮ้แมวก็เคยเลี้ยง ชาวแมวอย่าเพิ่งเบะปากสิ) เพราะงั้นออกตัวไว้ก่อนเลยว่าอินมาก5555คืองี้
แมสเสจที่หนังบอกกับหนังสือไม่เหมือนกันนะ ในความรู้สึกเรามันเกือบจะเหมือนคนละเรื่องไปเลยอะ
ในหนังเบลี่ย์ จะบอกเราว่าให้มีความสุขกับปัจจุบัน ทำหน้าที่ของตัวเองแล้วดำเนินต่อไป
ถามว่ามีน้ำตามั้ยมันก็มีแหละ แต่มันสไตล์หนังฟีลกู๊ดมากกว่า ดูจบแล้วอยากกอดหมาซักตัวเลย

แต่ในหนังสือ มันจะถูกเล่าในมุมมองของเบลี่ย์ เราจะได้ยินเสียงในหัวของเบลี่ย์ตลอด
และเบลี่ย์จะบอกเสมอว่าโลกนี้ขับเคลี่อนด้วยมนุษย์ และเราเป็นพระเจ้าของหมา
คนเขียนเก่งมากอะ ทำยังไงถึงเขียนได้หมาขนาดนี้เนี่ย ในส่วนของเนื้อเรื่อง
เอาง่ายๆว่ามันจะบอกว่าชีวิตของเบลี่ย์ตั้งแต่เริ่ม จนมาเจออีธาน ชีวิตของเบลี่ย์เกิดมาเพราะอะไร
และในระหว่างทางการมีตัวตนของมัน ได้ช่วยเหลือและถูกช่วยเหลือโดยใครบ้าง
มันต่างกันตรงนี้…..
ซึ่งเราบอกเลยว่าหนังสือทำร้องไห้แบบสะอึกสะอื้นอย่างมาก
แถมในแต่ละครั้งที่เบลี่ย์ตายมันเศร้ามากแบบ โอยจะขยี้ไปถึงไหน๊ 55

สรุปได้จากการอ่านเรื่องนี้นะ หมามันไม่สนหรอกว่าเจ้านายมันจะเป็นยังไง ไม่สวย อ้วน หรือขี้เหร่ยังไง

ถ้าเจ้าของๆมันรักมัน หมามันสัมผัสได้นะ แล้วถ้ามันลองได้รักเจ้าของมันแล้ว
มันก็จะรักเจ้าของมันไปอย่างงั้นจนกว่ามันจะจากเราไปนั่นแหละ
ข้อเดียวที่เราต้องยอมรับคือมันไม่อาจจะมีชีวิตที่ยืนยาวได้เท่ากับคน
เพราะงั้นช่วงเวลาที่มีมันอยู่ก็จะเป็นช่วงนึงที่ดีมากๆเลย

ถ้ามีโอกาสที่มีหมาในชีวิตแล้วจะเข้าใจ

เราแนะนำให้อ่านหนังสือมากกว่าอันนี้พูดจริงจัง
หลังจากนี้คือจะสปอยล์หนังสือ ใครตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือข้ามไปก่อนนะ

ชีวิตของเบลี่ย์นั้น เกิดมาเริ่มแรกยังไม่เจออีธานนะ แต่เบลี่ย์จะได้รู้จักการที่ถูกรักโดยมนุษย์ค่ะ
ต่อมาเบลี่ย์จะได้เจออีธาน และจะได้เข้าใจว่าชีวิตที่มีคนที่รักมันและมันก็รักมนุษย์นั้นเป็นยังไง
ซึ่งตรงนี้สำคัญมากเพราะหลายสิ่งที่อีธานทำนั้นเป็นความสุขและเป็นทั้งชีวิตของเบลี่ย์เลย
จากการที่ได้เกิดแล้วตายหลายครั้งหลายครานั้น ทำให้ในที่สุดเบลี่ย์ก็เข้าใจ ว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้
ที่ได้เจอมาทั้งหมด สุดท้ายแล้วเพียงเพื่อมาบอกกับอีธานในตอนสุดท้ายนั่นเองว่า
มันเกิดมาเพื่ออยู่เคียงข้างกับเด็กชายของมันอย่างจงรักภัคดีจนวาระสุดท้ายนั่นเอง
เขียนไปก็น้ำตาไหลอีกรอบแล้ววววว

ชีวิตหมามันก็แค่นี้เอง